รีวิวเที่ยวยุโรป ยูโกสลาเวียประวัติเป็นอย่างไร?
รีวิวเที่ยวยุโรป เป็น 1 ในประเทศยุโรปที่มีความเก่าแก่ ทางประวัติศาตร์ยุโรป ประเทศแห่งนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อ เดิมทีราชอาณาจักร ยูโกสลาเวีย เป็นเพียงอาณาจักรหนึ่ง ที่อยู่ภายใต้การปกครอง ของจักรวรรดิออสเตรีย ที่ถือว่ายิ่งใหญ่อย่างมากในอดีต โดยมีชื่อเรียกในอดีตว่า ราชอาณาจักรแห่งชาวเซิร์บ โครแอต และสโลวีน จากจักรวรรดิออสเตรียที่ยิ่งใหญ่
ได้ล่มสลายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ความเสียหายของสงคราม ทำให้กลุ่มอำนาจในยุโรป หลายประเทศนั้น ต้องแยกตัวออกจาก จักรวรรดิที่ได้รับความเสียหาย จนไม่สามารถกลับมารวมอำนาจได้ การสู้รบของชาวยูโกสลาเวีย
ที่ต่อต้านฝ่ายอักษะ หรือกลุ่มนาซี และสามารถยึดประเทศของตัวเอง กลับคืนมาได้ก่อนประเทศอื่นๆ ในยุโรปเลยทีเดียว ภายใต้การนำของจอมพล ทิโท และสามารถยึดคืนดินแดนทั้งหมด ในปี ค.ศ.1945 สาธารณรัฐแห่งนี้
จึงได้ถูกจัดตั้งขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1945 ภายใต้การนำของจอมพล ทิโท ที่มีความคิดแนวทางคอมมิวนิสต์ และชนะการเลือกตั้งในเวลาต่อมา จึงได้มีมติลงชื่อถอดถอน พระเจ้าพีเตอร์ที่ 2 ออกจากบัลลังค์
พระองค์ทรงไม่ยินยอม แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะจอมพลนั้นกุมอำนาจ ในประเทศได้หมดแล้วนั้นเอง หลังจากการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ได้มีการจัดตั้งสหพันธุ์สาธารณรัฐสังคมนิยม ที่รวบรวมดินแดนต่างๆ
ไว้ในการปกครองตนเอง ในช่วงเวลาของสงครามเย็น ได้รับการสนับสนุน จากสหภาพโซเวียตด้วยนั้นเอง จนกระทั่งหมดยุคสงครามเย็น ในปี ค.ศ.1990 จากการสู้รบในตะวันออกกลาง ระหว่างสองขั้วอำนาจในยุคสงครามเย็น ทำให้สหพันธุ์สาธารณรัฐแห่งนี้ ได้ล่มสลายลงจากสงคราม ยูโกสลาเวียในปี ค.ศ.1990 นั้นเอง
รีวิวเที่ยวยุโรป ยูโกสลาเวียมีความสัมพันธ์กับสหภาพโซเวียตได้อย่างไร?
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุโรปได้รับความเสียหาย จากการทำสงครามของพรรรคนาซี รวมทั้งประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมฝ่ายเดียวกับนาซีนั้นก็คือ อิตาลี หรือ ในแถบตะวันออกกลางเอง ก็มีสงครามไปทั่วทุกที่ การบุกอย่างสายฟ้าแล๊บของนาซี ที่เข้ายึดโปแลนด์และตามมาด้วยรัสเซีย ดินแดนของยูโกสลาเวียเอง ก็ได้ถูกยึดครองประเทศ โดยฝ่ายอักษะที่เป็นพันธมิตรกับนาซี
แต่การไม่ยอมของเหล่า คนในชาติไม่ว่าจะเป็นประชาชน หรือทหารนั้น ได้ลุกขึ้นสู้และปราบปราม ฝ่ายอักษะที่ละน้อย จนกระทั่งสามารถขับไล่ฝ่ายอักษะ ออกไปจากประเทศของตัวเองได้ และได้ยึดดินแดนอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้การยึดของอักษะอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นเซอร์เบีย นอร์ทมาซิโดเนีย มอนเตเนโกร บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา โครเอเชีย และ สโลวีเนีย จากการช่วยปลดแอกนี้เอง จึงได้มีการจัดตั้งรวมกันเป็นสหพันธุ์ รวมกันเพื่อเป็นกลุ่มอำนาจ อีกทั่งภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง
รัสเซียเองได้เปลี่ยนชื่อเป็น สหภาพโซเว๊ยต ที่มีประเทศอยู่ภายใต้ การปกครองของรัสเซ๊ย จึงมีความยิ่งใหญ่เหมือน ในอดีต ด้วยยูโกสลาเวียนั้น อยู่ทางตอนใต้ติดกับสหภาพโซเวียต จึงได้รับการสนับสนุน เพื่อเป็นประเทศร่วมกัน ในอุดมการณ์และร่วมเรียกร้อง ข้อตกลงต่างๆ จากทางประเทศฝั่งตะวันตกได้นั้นเอง ความสัมพันธ์ของสองประเทศนี้ ได้สร้างระบบเศรษฐกิจ
รวมถึงวัฒนธรรมศิลปะต่างๆ ในช่วงสงครามเย็น ที่ถือว่าทรงอิทธิพลกับยุคนั้นเอง อีกทั่งยังมีการสนับสนุนทางด้าน อาวุธ และทหาร เพราะสหภาพโซเวียตในเวลานั้นเอง มีความพร้อมในทุกด้าน แต่ความใหญ่โตที่รวดเร็วมากเกินไป
บวกกับการแพ้สงครามในตะวันออกกลาง ของสหภาพโซเวียต ทำให้เศรษฐกิจโดยรวมเกิดปัญหาขึ้น จึงทำให้สหภาพโซเวียต ต้องล่มสลายในเวลาต่อมานั้นเอง เมื่อประเทศแห่งนี้ไม่มีแบ็คคอยปกป้องแล้ว สหพันธุ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย ต้องโดดเดียวและล่มสลาย แตกออกมาเป็นประเทศต่างๆ อย่างที่เห็นในปัจจุบันนั้นเอง
ยูโกสลาเวีย สถานที่ท่องเที่ยว มีอะไรบ้าง?
อย่างที่รู้กันว่า ในดินแดนยูโกสลาเวียนั้น แยกออกมาเป็นหลายประเทศ แต่ละประเทศนั้นตั้งอยู่ในช่วง ยุโรปตอนกลางจรดไปถึง ตะวันออกเฉียงใต้ จึงมีพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ รวมถึงธรรมชาติอันงดงาม ในแบบยุโรปตอนกลาง ที่ปกคลุมไปด้วยภูเขาและป่านั้นเอง แต่ละเมืองในยูโกสลาเวียนั้น มีบรรยากาศที่ดีอย่างมากนั้นเอง เหมาะแก่การมาท่องเที่ยว
สัมผัสกับอากาศธรรมชาตินั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวที่แรก ที่ทางเราจะแนะนำคือ Prizren , Kosovo เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของโคโซโว ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ เมืองแห่งนี้มีสถาปัตยกรรม ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นยุโรป และตะวันออกนั้นเอง เพราะในอดีตนั้นเมืองแห่งนี้ อยู่ภายใต้การควบคุมของ จักรวรรดิออตโตมัน ที่ปกครองทั่วทั้งตะวันออก
และยุโรปตอนกลาง จนกระทั่งภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จักรวรรดิออตโตมันได้ล่มสลาย พื้นที่ต่างๆในยุโรปตอนกลางนั้น ได้เกิดเป็นประเทศต่างๆในปัจจุบันนั้นเอง รวมถึงเมืองแห่งนี้ที่มี เสาสูงและโดมขนาดใหญ่
อันเป็นมรดกจากยุคสมัยนั้นเอง อีกทั้งหมู่บ้านนี้ยังมีบรรยากาศ แสนอบอุ่นจากชาวบ้าน ที่ต้อนรับเหล่านักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี และมีผู้คนคึกคักในเวลากลางคืน ค่าครองชีพที่นี้ถูกอย่างมากอีกด้วย สถานที่ต่อไปคือ Piran , Slovenia
เมืองตากอากาศริมทะเล ของสโลวาเนียที่หันหน้าเข้ากับ ทะเลอะเดรียติก ลักษณะเมืองแห่งนี้เป็นเมืองท่า ในแบบยุโรปยุคกลาง สถาปัตยกรรมบ้านเรือนต่างๆนั้น ยังเป็นของเดิมมาตั้งแต่ ยุคแรกเริ่มสร้างเมืองนี้นั้นเอง
บรรยากาศของเมืองนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนเมืองท่า เวเนเซียน ของประเทศอิตาลี หรือโครเอเชียนั้นเอง เพราะเมืองแห่งนี้ถูกสร้างยื่นออกไป เหมือนเป็นแหลมและมี จตุรัสกลางเมืองเชื่อมต่อกับทะเล ทำให้ตลอดการเดินชมเมืองแห่งนี้ เราจะได้สัมผัสลมทะเลอยู่ตลอดเวลานั้นเอง เราไปกันต่อที่ Jajce, Bosnia & Herzegovina เมืองที่ตั้งอยู่เหนือน้ำตกอันสวยงาม ด้วยบรรยากาศธรรมชาติ
และความเย็นของอากาศ ทางตอนเหนือของบอสเนีย เมืองแห่งนี้ชุ่มชื่นไปด้วยสีเขียว ต้นไม้ปกคลุมล้อมรอบเมือง และด้วยบ้านเรือนต่างๆนั้น เป็นแบบยุคกลางจึงทำให้ มีความคลาสสิคอย่างมาก หากได้มาเที่ยวนั้น
จะต้องได้รับบรรยากาศดีๆ แสนโรแมนติกนั้นเอง เมืองแห่งนี้มีชื่อว่า ไยสะ เป็นการอ่านออกเสียงที่แปลก ดีด้วยเช่นกัน สถานที่สุดท้ายนั้นคือ Kotor, Montenegro ตั้งอยู่ตรงปลายสุดของ ประเทศมอนเตเนโกร
เมืองแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า เป็นเพชรเม็ดงามของประเทศนี้เลยทีเดียว ด้วยที่ตั้งอยู่อยู่ใกล้กับทะเลสาบขนาดใหญ่ บ้านเรือนต่างๆในเมืองนี้ หลังคาเป็นสีเดียวกันหมดเลย หากได้ขึ้นมาเดินชมเมือง
ในมุมสูงตามแนวเขตป้อมปราการโบราณ จะทำให้เห็นวิวมุมสูงของเมือง และทะเลสาบที่ขั้นกลางภูเขาสูงนั้นเอง สถานที่ท่องเที่ยวของ ยูโกสลาเวียไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ที่ขึ้นชื่อและพาให้คุณ ได้สัมผัสกับบรรยากาศของธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมโบราณนั้นเอง
ปัจจุบันยูโกสลาเวียเป็นอย่างไร?
หลังจากการล่มสลาย ของสหภาพโซเวียต ทำให้ประเทศต่างๆในเครือ สหภาพโซเวียตได้แตกออกเป็นประเทศต่างๆ รวมถึงยูโกสลายเวียเอง ได้แบ่งการปกครองออก เป็นประเทศต่างๆที่อยู่ในดินแดนแห่งนี้
ถึงแม้ประเทศแห่งนี้ จะเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แต่มีอัตราการเติบโต ของเศรษฐกิจ ไม่แพ้ประเทศใหญ่ๆ ในยุโรปตะวันตกเลยทีเดียว ด้วยทั้งตั้งนั้นมีทรัพยากร ทางธรรมชาติที่อุดมสมบรูณ์ รวมทั้งความสามารถทางด้าน วิศวกรรม และวิทยาการต่างๆในยุโรปนั้นเอง จากภัยสงครามในอดีต ทำให้การฟื้นตัวของประเทศต่างๆ ในดินแดนแห่งนี้ ค่อยๆเติบโตทุกๆปี
สรุปการเดินทางท่องเที่ยวยูโกสลาเวียเป็นอย่างไร?
การที่ได้มาเที่ยวประเทศต่างๆ ในดินแดนแถบนี้นั้น เป็นความดินแดนในเทพนิยาย เพราะด้วยธรรมชาติและป้อมปราการ ต่างๆที่หลงเหลือจากยุคสมัย ที่ในอดีตนั้นดินแดนแถบนี้ มักเป็นสรมภูมิระหว่างชาวเติร์ก และชาวคริสต์นั้นเอง เราจึงได้เห็นสถาปัตยกรรม รวมถึงผู้คนเชื้อชาติต่างๆ ที่มีรูปแบบผสมผสานกัน ระหว่างตะวันตกและตะวันออก อีกทั้งยังได้บรรยากาศ ที่แสนอบอุ่นจากชาวเมือง ในที่ต่างๆนั้นมีอัธยาศัยดี กับเหล่านักท่องเที่ยว ที่เดินทางมาเที่ยวยังประเทศของพวกเขานั้นเอง
จึงทำให้ มองว่า ยูโกสลาเวีย เป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ ที่มีเรื่องราวเชื่อมโยงกับ ยุคสมัยมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังเคยป็นดินแดนที่ตั้ง อาณาจักรยิ่งใหญ่อย่างมาซัโดเนียน ลูกหลานพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชนั้นเอง อีกทั้งยังผ่านเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละยุคสมัยของสงคราม ที่กินอิทธิพล เป็นเวลานาน จนเกิดเป็นประเทศต่างๆ ในดินแดนแห่งนี้นั้นเอง